กระทรวงอุตสาหกรรม โดย กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชนได้รับมอบหมายจาก กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เป็นผู้ดำเนินการจัดงาน “ศิลปาชีพ ประทีปไทย OTOP ก้าวไกลด้วยพระบารมี ประจำปี 2561" ร่วมกับ กรมการพัฒนาชุมชน. ระหว่างวันที่ 11 -19 สิงหาคม 2561 ณ อาคารชาเลนณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยมีการจัดกิจกรรม ดังนี้
1.จัดนิทรรศการและจำหน่ายสินค้าของกระทรวงอุตสาหกรรม ขนาดพื้นที่ 160 ตารางเมตร ประกอบด้วย
1.1) จัดแสดงนิทรรศการผลิตภัณฑ์เด่น “ชุมชนไทยลื้อ” บ้านลวงเหนือ จ.เชียงใหม่ ซึ่งเข้าร่วมโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ เชิงสร้างสรรค์ ที่มีอัตลักษณ์ของภูมิภาคสู่สากล ประจำปี 2561 มีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ผ่านการพัฒนาจากโครงการฯ อาทิ กระเป๋า รองเท้า จากผ้าซิ่นตาหมาควายหลวง ที่ใส่โทรศัพท์ ถุงสวมกุญแจรูปเสื้อปั๊ดลื้อ สร้อยคอจากฝ้ายมงคล หมวกสานจากก้านมะพร้าวประยุกต์มาจากผ้าเคียนหัว ตุ๊กตาไม้นายโถ เฮือนปอกระดาษสา เป็นต้น
1.2)จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “กลุ่มคลัสเตอร์หัตถศิลป์สยาม”โดยการรวมกลุ่มของสมาชิกที่มีองค์ความรู้ภูมิปัญญาไทยในการสร้างสรรค์ผลิตชิ้นงานหัตถกรรมต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางและเครื่องมือในการพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของงานประเภทหัตถศิลป์ ให้เกิดความเข้มแข็ง สามารถรับมือกับกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น และเติบโตได้อย่างต่อเนื่องยั่งยืน
1.3)จัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เด่น 4 ภาค คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ พร้อมคูหาจำหน่ายสินค้า 3 คูหา
1.4)กิจกรรมสาธิตการถ่ายทอดองค์ความรู้ (Workshop) ให้ผู้เข้าร่วมงานทั่วไป จำนวน 8 วัน 6 หลักสูตร เวลา 13.00-16.00 น. (1 วัน/ผู้เข้าอบรม 15 คน) ได้แก่
- การตกแต่งรองเท้าแตะให้มีมูลค่าเพิ่ม
-การทำกระเป๋าคูพาร์ท
-การจัดสวนในโหลแก้ว (2 วัน)
-การถัก Macrame (เชือกถัก)
-การทำพวงกุญแจดอกทิวลิป
-การตกแต่งกระเป๋าจากเศษผ้า (2 วัน)
2. กิจกรรมส่งเสริมการขาย ประกอบด้วย
2.1)กิจกรรมออกร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ 3-5 ดาว จากผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจาก กสอ.จำนวน 50 คูหา ผู้ประกอบการ 71 ราย
2.2)กิจกรรมนาทีทอง รวมพลลดกระหน่ำเพื่อส่งเสริมการขาย วันละ 2 รอบ/ผู้ประกอบการ 10 ราย รอบเข้าเวลา 12.00-13.00 น. รอบเย็นเวลา 17.00-18.00 น.
ยอดจำหน่ายสินค้าสะสม 9 วัน ระหว่างวันที่ 11-19 สิงหาคม 2561 ยอดขาย 21,604,220 บาท ยอดสั่งซื้อ 7,424,300 บาท รวมยอดสุทธิ 9 วัน 29,028,520 บาท

2.)เปรียบเทียบยอดจำหน่ายสินค้า 9 วัน ระหว่าง ปี 2560 และ 2561 ดังนี้
ยอดจำหน่ายสินค้าปี 2560 เป็นเงิน 13,594,084 บาท
ยอดจำหน่ายสินค้าปี 2561 เป็นเงิน 20,238,950 บาท
ยอดขายเพิ่มขึ้น 15,434,436 บาท
มากกว่าปี 2560 คิดเป็นร้อยละ 113.54
3.)ร้านจำหน่ายสินค้าที่มียอดรวม 9 วัน สูงสุด 5 ลำดับ (TOP FIVE)
3.1 รัศมีไหมไทย จ.หนองบัวลำภู
ผลิตภัณฑ์ : ผ้ายกโบราณ
รวมยอดขาย 7,005,100 บาท
3.2Tie Thai จ.อุดรธานี
ผลิตภัณฑ์ : ชุดสตรีย้อมคราม
รวมยอดขาย 1,540,000 บาท
3.3 Royroysoy จ.ปทุมธานี
ผลิตภัณฑ์ : เครื่องประดับหินสี หินมงคล
รวมยอดขาย 1,056,000 บาท
3.4 Piyasila จ.เพชรบูรณ์
ผลิตภัณฑ์ : เสื้อผ้าชาวเขา
รวมยอดขาย 1,040,000 บาท
3.5 ห้องเสื้อวรัญญา จ.เชียงใหม่
ผลิตภัณฑ์ : ชุดสตรีผ้าไหมแก้ว
รวมยอดขาย 934,700 บาท
เหตุผลที่ร้านค้า 5 ลำดับแรก มียอดขายที่สูงกว่ารายอื่นๆ
1. ผลิตภัณฑ์มีความโดดเด่น มีอัตลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร
2. ผลิตภัณฑ์มีการตัดเย็บที่ปราณีต สวยงาม มีรูปแบบที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า
3. มีการจัดร้านที่โดดเด่น แตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่นๆ และบริเวณที่ตั้งคูหาจำหน่ายสินค้าของกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ในบริเวณที่เหมาะสม (ชาเลนเจอร์ 2) ผู้ชมงานสามารถเดินผ่านได้ตลอดทั้งงาน ทำให้มีผู้เลือกชมสินค้าเป็นจำนวนมาก
4.ราคามีความเหมาะสมกับคุณภาพของสินค้า
5. ร้านจำหน่ายสินค้าของ อก.ส่วนใหญ่เป็นร้านที่เข้ารับการพัฒนาจากโครงการต่างๆของ กสอ.ทำให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพ ผลิตภัณฑ์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีการประชาสัมพันธ์ในสื่อต่างๆ เช่น ไลน์ หรือ เฟสบุ๊ค จึงมีลูกค้าประจำติดตามเป็นจำนวนมาก และมาซื้อสินค้าทุกครั้งที่มีกิจกรรมออกร้านจำหน่ายสินค้า